ChatGPT Agent: การใช้งานและข้อจำกัด

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ChatGPT Agent ถูกเปิดตัวโดย OpenAI เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก การคลิกและกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ หรือแม้แต่การจัดการงานต่าง ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์เสมือน ด้วยความคาดหวังที่สูงจากหลาย ๆ คน ChatGPT Agent ได้รับการโปรโมทว่าเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทดลองใช้งานจริง พบว่า ChatGPT Agent ยังมีข้อจำกัดและความน่าผิดหวังในหลายด้าน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ChatGPT Agent อย่างละเอียด ตั้งแต่ความสามารถหลัก วิธีการใช้งานจริง ตัวอย่างการใช้งาน รวมถึงข้อควรระวังและข้อจำกัดที่ควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วนก่อนนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือการทำงาน

ChatGPT Agent คืออะไรและทำงานอย่างไร

ChatGPT Agent เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน ChatGPT เพื่อขยายขอบเขตการทำงานของ AI จากการตอบคำถามและให้คำแนะนำทั่วไป ให้กลายเป็นระบบที่สามารถทำงานแทนผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ตได้จริง ๆ โดยฟีเจอร์นี้จะสามารถ:

• ทำการวิจัยเชิงลึก (Deep Research) โดยการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์หลายสิบถึงร้อยแห่ง
• ใช้ความสามารถในการคิดและเหตุผล (Reasoning) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจ
• ใช้เบราว์เซอร์เสมือน (Virtual Browser) เพื่อคลิก ลากข้อมูล กรอกฟอร์ม และทำงานแทนผู้ใช้บนเว็บไซต์
• สร้างรายงาน สเปรดชีต หรือพรีเซนเทชันให้อัตโนมัติ

แต่ละฟีเจอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำงานที่ซับซ้อนบนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือการค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกที่ต้องใช้เวลานาน

การเข้าถึง ChatGPT Agent

สำหรับผู้ใช้ที่สมัครสมาชิก ChatGPT Pro จะมีฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ และล่าสุด OpenAI ได้เริ่มเปิดให้ผู้ใช้ Plus และ Teams ที่เป็นสมาชิกแบบชำระเงินเข้าถึงได้เช่นกัน โดยสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเมนู Tools และเลือก Agent Mode ซึ่งจะแสดงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ Agent สามารถทำได้

ฟังก์ชันหลักของ ChatGPT Agent

ChatGPT Agent แบ่งการทำงานออกเป็น 5 หมวดหมู่หลัก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและเลือกใช้งานได้ง่ายขึ้น ดังนี้:

1. การสร้างรายงาน (Reports) - Agent สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดทำรายงานในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
2. การดำเนินการบนเว็บไซต์ (Actions) - Agent สามารถเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อคลิก กรอกข้อมูล หรือทำธุรกรรมแทนผู้ใช้
3. การสร้างสเปรดชีต (Spreadsheets) - Agent สามารถรวบรวมข้อมูลและจัดรูปแบบให้อยู่ในรูปแบบสเปรดชีต
4. การสร้างพรีเซนเทชัน (Presentations) - Agent สร้างพรีเซนเทชันในรูปแบบ PowerPoint ตามคำสั่งที่กำหนด
5. การวิจัยเชิงลึก (Deep Research) - Agent ค้นคว้าข้อมูลจากหลายแหล่งและสรุปผลอย่างละเอียด

ในแต่ละหมวดหมู่จะมีตัวอย่างและคำแนะนำให้ผู้ใช้ลองใช้งานเพื่อให้เห็นภาพรวมของความสามารถที่ ChatGPT Agent สามารถทำได้

งานที่ ChatGPT Agent ทำได้ และข้อสังเกต

1. การวิจัยกระบวนการจัดตั้งบริษัท LLC

หนึ่งในตัวอย่างที่ใช้บ่อยในเชิงธุรกิจคือการใช้ ChatGPT Agent เพื่อค้นคว้าขั้นตอนการจัดตั้งบริษัท LLC (Limited Liability Company) ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา

เมื่อส่งคำสั่งให้ Agent ทำการวิจัย โดยระบุให้ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ LegalZoom เท่านั้น Agent จะทำงานโดยเปิดเบราว์เซอร์เสมือนและค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์นั้น จากนั้นก็รวบรวมข้อมูลและจัดทำสเปรดชีตสรุปข้อมูลตามรัฐต่าง ๆ ที่สามารถจัดตั้ง LLC ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบผลลัพธ์กับการใช้ ChatGPT ปกติที่มีฟีเจอร์ค้นหาข้อมูลบนเว็บ (Web Search) พบว่า ChatGPT ปกติสามารถสร้างตารางสรุปข้อมูลในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ในขณะที่ Agent ใช้เวลานานถึง 6 นาที และผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ถูกจัดรูปแบบอย่างสวยงามหรือใช้งานง่ายเท่า

นี่แสดงให้เห็นว่าในบางกรณี Agent อาจเป็นเพียงการจำลองหน้าต่างการทำงานที่ซับซ้อนขึ้นโดยไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพหรือความเร็วในการทำงานให้มากขึ้น

2. การจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ Hotels.com

อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือการใช้ Agent เพื่อจองโรงแรมในช่วงวันหยุด ผ่านเว็บไซต์ Hotels.com โดยกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ระดับดาว ราคาที่ต้องการ และสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำในร่ม

Agent จะเปิดเบราว์เซอร์เสมือนและทำการค้นหาโรงแรมที่ตรงตามเงื่อนไข จากนั้นเลือกโรงแรมและนำผู้ใช้ไปยังหน้าชำระเงินเพื่อดำเนินการต่อ

แต่ปัญหาคือ Agent ใช้เวลาถึง 25 นาทีในการค้นหาโรงแรมและนำไปสู่หน้าชำระเงิน ขณะที่ผู้ใช้สามารถทำงานนี้ได้เองภายใน 45 วินาทีด้วยการใช้ตัวกรองบนเว็บไซต์โดยตรง

นอกจากนี้ บริการ Agent ยังแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อต้องกรอกข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตบนเบราว์เซอร์เสมือนที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ของ OpenAI ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนอนุญาตให้ Agent เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

3. การตรวจสอบและวิเคราะห์ Google Calendar

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ดูมีประโยชน์ที่สุดของ ChatGPT Agent คือความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ เช่น Google Calendar และ Gmail เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวและช่วยจัดการเวลา

ตัวอย่างเช่น การสั่งให้ Agent ตรวจสอบปฏิทินกิจกรรมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และสรุปว่าใช้เวลาไปกับกิจกรรมประเภทใดบ้าง เพื่อช่วยวางแผนการใช้เวลาที่มีประสิทธิภาพขึ้น

ขั้นตอนการทำงานจะเริ่มจาก Agent ค้นหาวิธีการเข้าถึง Google Calendar ผ่านการค้นหาข้อมูลบนเว็บ จากนั้นจะขอให้ผู้ใช้ทำการ Take Over หรือควบคุมเบราว์เซอร์เสมือนเพื่อเข้าสู่ระบบ Google Account ด้วยตัวเอง

แม้ว่าจะสามารถทำงานได้สำเร็จและสรุปข้อมูลได้อย่างละเอียด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เนื่องจากการให้ Agent เข้าถึงบัญชี Google ของคุณเป็นการเปิดโอกาสให้ข้อมูลสำคัญถูกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น การใช้งานฟีเจอร์นี้จึงควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและไม่แนะนำให้ใช้กับบัญชีหลักหรือข้อมูลที่มีความสำคัญสูง

4. การสร้างพรีเซนเทชันสำหรับธุรกิจ

หลายคนต้องทำพรีเซนเทชันสำหรับงานหรือธุรกิจ ChatGPT Agent สามารถช่วยสร้างสไลด์พรีเซนเทชันในรูปแบบ PowerPoint ได้ตามหัวข้อที่กำหนด เช่น การสร้างแผนกลยุทธ์สำหรับแบรนด์โรงแรมหรูที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ

Agent จะทำการวิจัยและรวบรวมข้อมูล จากนั้นสร้างสไลด์ที่มีเนื้อหาและโครงสร้างพื้นฐานให้ภายในเวลาประมาณ 15 นาที แม้ดีไซน์จะยังดูธรรมดาและไม่สวยงามมาก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสไลด์พร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถนำไฟล์พรีเซนเทชันที่ได้ไปปรับแต่งต่อในแอปพลิเคชันอื่น ๆ เช่น Gamma.app เพื่อเพิ่มความสวยงามและความเป็นมืออาชีพให้กับงานนำเสนอ

การเชื่อมต่อกับ Gamma.app เพื่อปรับแต่งพรีเซนเทชัน

หลังจากที่ ChatGPT Agent สร้างไฟล์ PowerPoint (.pptx) ให้แล้ว คุณสามารถนำไฟล์นี้ไปใช้กับ Gamma.app ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยปรับแต่งและออกแบบพรีเซนเทชันด้วย AI ได้อย่างง่ายดาย โดย Gamma.app มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้:

• Visual Import: นำเข้าไฟล์ PowerPoint และปรับปรุงดีไซน์ให้ดูเป็นมืออาชีพขึ้นโดยยังคงรูปแบบข้อความและภาพเดิมไว้
• Transform Content: สร้างสไลด์ใหม่ทั้งหมดด้วยการปรับเนื้อหาและดีไซน์ใหม่ โดยสามารถเลือกความละเอียดของเนื้อหา (Minimal, Detailed, Concise, Extensive) และสไตล์ของภาพที่ต้องการได้

การใช้ Gamma.app ร่วมกับ ChatGPT Agent ช่วยให้คุณสามารถสร้างงานพรีเซนเทชันที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ และยังช่วยประหยัดเวลาในการออกแบบ

ข้อจำกัด และความเสี่ยงของ ChatGPT Agent

1. ประสิทธิภาพและความรวดเร็ว

จากตัวอย่างที่ได้ทดลองใช้งาน ChatGPT Agent พบว่าการทำงานบางอย่างที่ควรจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที กลับใช้เวลานานหลายสิบนาที ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าการทำงานด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์โดยตรง

ในหลายกรณี Agent ให้ผลลัพธ์ที่ซ้ำซ้อนกับฟีเจอร์ Deep Research ที่มีอยู่แล้วใน ChatGPT ทำให้การใช้งาน Agent ไม่ได้เพิ่มมูลค่าหรือประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร

2. ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว

หนึ่งในข้อกังวลหลักของการใช้ ChatGPT Agent คือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่ออนุญาตให้ Agent เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน เช่น การลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หรือกรอกข้อมูลบัตรเครดิตบนเบราว์เซอร์เสมือน

ระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับความเสี่ยงนี้อย่างชัดเจน และแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีจากมัลแวร์หรือเว็บไซต์อันตรายที่อาจแฝงตัวอยู่ในเบราว์เซอร์เสมือน

ดังนั้น การใช้งาน Agent ในการทำธุรกรรมหรือเข้าถึงข้อมูลสำคัญควรทำด้วยความระมัดระวังสูงสุด และหลีกเลี่ยงการใช้กับข้อมูลที่มีความสำคัญสูงหรือบัญชีหลัก

3. ความน่าเชื่อถือ และสถานะของผลิตภัณฑ์

ChatGPT Agent ยังอยู่ในสถานะเบต้า (Beta) ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้ยังไม่สมบูรณ์และยังมีข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขในอนาคต

ผู้พัฒนาได้ออกมายอมรับถึงความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ Agent และเตรียมที่จะปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการให้คำเตือนผู้ใช้เพื่อให้รู้จักใช้เทคโนโลยีนี้อย่างระมัดระวัง

ข้อสรุปจากการทดลองใช้งาน

หลังจากใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการทดสอบและทดลองใช้ ChatGPT Agent พบว่าฟีเจอร์นี้ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของความเร็วและความสะดวกสบายเมื่อเทียบกับการใช้ ChatGPT ปกติหรือการทำงานด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ต

ในขณะที่ความสามารถในการทำงานแทนผู้ใช้บนเบราว์เซอร์เสมือนถือเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ แต่ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทำให้ยังไม่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

นอกจากนี้ การที่ฟีเจอร์นี้ถูกเปิดให้ใช้ในแผนราคาสูงถึง 200 ดอลลาร์ต่อเดือน ก็ทำให้หลายคนเกิดความคาดหวังสูง และเมื่อลองใช้งานจริงกลับรู้สึกผิดหวังกับประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของฟีเจอร์นี้

อย่างไรก็ตาม ChatGPT Agent ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาและปรับปรุงในอนาคต และผู้ใช้ควรติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก OpenAI อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่พลาดโอกาสในการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เคล็ดลับสำมือใหม่ที่สนใจใช้ ChatGPT Agent

สำหรับนักศึกษาหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ AI Agent เพื่อช่วยในการทำงานหรือวิจัย มีข้อแนะนำที่ควรพิจารณาเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยดังนี้:

1. เริ่มจากงานที่ไม่ซับซ้อน: ทดลองใช้ Agent กับงานที่ง่ายและไม่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การสร้างพรีเซนเทชันพื้นฐาน หรือการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเดียว
2. อย่าใช้ข้อมูลส่วนตัวสำคัญ: หลีกเลี่ยงการให้ Agent เข้าถึงบัญชีที่มีข้อมูลสำคัญ เช่น บัญชีธนาคาร หรือบัญชีหลักของอีเมล
3. เปรียบเทียบผลลัพธ์: ลองใช้งาน ChatGPT ปกติควบคู่ไปกับ Agent เพื่อดูว่าการใช้ Agent นั้นเพิ่มประสิทธิภาพจริงหรือไม่
4. ใช้ Gamma.app ร่วมกับ Agent: สำหรับงานพรีเซนเทชัน การนำไฟล์ PowerPoint ที่ได้จาก Agent ไปปรับแต่งใน Gamma.app จะช่วยเพิ่มคุณภาพงานได้อย่างมาก
5. ติดตามข่าวสารและอัปเดต: เนื่องจาก Agent ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ควรติดตามฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงที่ OpenAI จะปล่อยออกมา

สรุป

ChatGPT Agent เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจและมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเราในโลกดิจิทัล มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ AI ทำงานแทนมนุษย์ได้หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่การค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก การดำเนินการบนเว็บไซต์ ไปจนถึงการสร้างสื่อสำหรับธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การใช้งานจริง พบว่า Agent ยังมีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งในเรื่องของความเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อต้องให้ Agent เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรมออนไลน์  ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจใช้ ChatGPT Agent ในงานของคุณ ควรพิจารณาความเสี่ยงและเปรียบเทียบกับวิธีการทำงานแบบเดิมอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีนี้โดยไม่เกิดผลเสียตามมา

สำหรับนักศึกษาและผู้เริ่มต้น แนะนำให้ทดลองใช้งานในงานที่ไม่ซับซ้อนและไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญ พร้อมทั้งใช้เครื่องมือเสริมอย่าง Gamma.app เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพงาน และติดตามการอัปเดตจาก OpenAI อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในโลกของ AI