• UDOMCHOKE ASAWIMALKIT

    May 27, 2025

  • AI Agent และวิธีสร้างด้วยตัวเอง

     

    สวัสดีครับ ผม Remi Taffin วิศวกรซอฟต์แวร์มากประสบการณ์ 15 ปี และเจ้าของเอเจนซี่ด้าน AI Automation วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง AI Agent ในแบบที่เข้าใจง่ายที่สุด พร้อมสอนวิธีสร้าง AI Agent ตัวแรกของคุณเองด้วยเครื่องมือ n8n โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลยครับ

    ถ้าคุณเคยรู้สึกสับสนกับคำศัพท์เทคนิคหรือวิดีโอที่อธิบาย AI Agent ด้วยภาษาเชิงเทคนิคจนเข้าใจยาก ผมขอให้คุณอ่านบทความนี้ให้จบ เพราะผมจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนกับว่ากาแฟของคุณก็เข้าใจได้เลยครับ

    AI Agent คืออะไร?

    ถ้าคุณลองค้นหาคำว่า AI Agent ใน Google หรือ YouTube คุณอาจเจอกับข้อมูลที่เต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคและความซับซ้อนมากมาย ซึ่งเหมือนกับการเรียนขับรถโดยไปดูที่เครื่องยนต์ก่อนจะจับพวงมาลัย

    เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ลองนึกภาพ AI Agent เป็นเหมือน ลูกน้องที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ คุณแค่บอกเป้าหมาย ให้เครื่องมือ และคำแนะนำ จากนั้น AI Agent ก็จะลงมือทำงานให้คุณทันที

    ในเชิงเทคนิค AI Agent ต้องประกอบด้วย 3 อย่างหลัก ๆ คือ:

    • ความฉลาดในการคิด – สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง
    • ความสามารถในการจดจำ – มีหน่วยความจำเพื่อเก็บข้อมูลและประวัติการทำงาน
    • การลงมือทำ – สามารถทำงานหรือดำเนินการตามคำสั่งได้จริง

    AI Agent จะอ่านข้อมูล วิเคราะห์ว่าอะไรต้องทำ แล้วลงมือทำภารกิจนั้น ๆ แทนคุณ ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาทำงานที่น่าเบื่อ แต่ไปโฟกัสกับงานที่ท้าทายและสำคัญกว่าแทน

    ตัวอย่างการใช้งาน AI Agent ในองค์กร

    AI Agent ถูกใช้งานในหลายแผนกและหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะงานของแต่ละองค์กร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมีดังนี้:

    • ฝ่ายการตลาด – ใช้ AI Agent ในการสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่จากเนื้อหาเดิม (content repurposing), วิเคราะห์เทรนด์ตลาด และสรุปผลแคมเปญโฆษณา
    • ฝ่ายขาย – ใช้สำหรับคัดกรองลูกค้าเป้าหมาย (lead qualification), ติดตามผลลูกค้า และทำความสะอาดข้อมูลในระบบ CRM
    • ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) – ใช้ในกระบวนการต้อนรับพนักงานใหม่, ตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายบริษัท และให้ข้อมูลภายในองค์กร

    นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะ AI Agent สามารถปรับใช้ได้หลากหลายตามความต้องการของแต่ละบริษัท และโอกาสในการประหยัดเวลาและแรงงานนั้นมีมากมายมหาศาล

    3 ขั้นตอนสำคัญในการสร้าง AI Agent ตัวแรกของคุณ

    การสร้าง AI Agent นั้นเปรียบเสมือนกับการจ้างพนักงานคนหนึ่ง คุณต้องผ่านขั้นตอนหลัก 3 ขั้นตอนคือ:

    1. การจ้าง (Hire) – เลือกแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่จะใช้สร้าง AI Agent
    2. การอบรม (Onboard) – ให้คำสั่งและเชื่อมต่อ AI Agent กับเครื่องมือและข้อมูลที่ต้องใช้
    3. การปรับปรุง (Improve) – ติดตามผลและปรับแต่ง AI Agent เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น

    1. การจ้าง AI Agent: เลือกเครื่องมือและสมองของ AI

    ขั้นตอนแรกคือการเลือกแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง AI Agent เช่น n8n, Make.com หรือ Zapier ที่กำลังได้รับความนิยม นอกจากนี้ Google ก็กำลังจะเปิดตัว Agent Space ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

    สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ AI Agent ของคุณจะต้องเชื่อมต่อกับเครื่องมือที่ใช้งานอยู่ในองค์กรได้มากน้อยแค่ไหน เช่น ถ้าคุณต้องการ AI Agent ที่เชื่อมต่อกับ Google Sheets อย่างเดียว ก็อาจเลือกแพลตฟอร์มที่รองรับแค่นั้น แต่ถ้าคุณต้องการ AI Agent ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือหลายสิบตัว ก็ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่มีความสามารถสูงกว่า

    นอกจากนี้ยังต้องเลือก “สมอง” หรือโมเดล AI ที่จะใช้ เช่น OpenAI GPT, Google Gemini หรือโมเดลอื่น ๆ ซึ่งแต่ละโมเดลมีความสามารถและค่าบริการที่แตกต่างกัน

    อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ หน่วยความจำ (Memory) ของ AI Agent เพราะ AI Agent จะต้องจดจำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น ประวัติการสนทนา หรือข้อมูลลูกค้า เพื่อให้การตอบกลับมีความแม่นยำและต่อเนื่อง

    ถ้าเปรียบเทียบกับการจ้างคนจริง ๆ การจ้าง AI Agent ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าการจ้างคนจริง ๆ มาก

    2. การอบรม AI Agent: ตั้งค่าและให้คำสั่ง

    หลังจากเลือกแพลตฟอร์มและโมเดล AI แล้ว คุณต้อง “อบรม” AI Agent โดยการตั้งค่าให้มันรู้จักเครื่องมือที่ต้องใช้ เช่น Email, Slack, Google Sheets, CRM หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้งานในองค์กร

    นอกจากนี้ยังต้องเขียนคำสั่งหรือที่เรียกว่า “Prompt” เพื่อบอก AI Agent ว่าเมื่อได้รับข้อมูลหรือคำถามแบบไหนควรตอบอย่างไร เช่น ถ้าได้รับอีเมลถามเรื่องนโยบายบริษัท ควรตอบด้วยข้อมูลจากเอกสารไหน และใช้โทนการตอบแบบใด

    การอบรมนี้เหมือนกับการสอนพนักงานใหม่ว่ากระบวนการทำงานของบริษัทเป็นอย่างไร เพื่อให้ตอบสนองลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

    3. การปรับปรุงและพัฒนา AI Agent

    แม้ AI Agent จะเริ่มทำงานได้แล้ว แต่คุณต้องติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น ตรวจสอบว่ามันตอบคำถามถูกต้องหรือไม่ ปรับคำสั่งให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มข้อมูลและเครื่องมือใหม่ ๆ ให้มันใช้ได้ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การติดตามนี้เปรียบเสมือนกับการประเมินผลการทำงานของพนักงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการและความพึงพอใจของลูกค้า

    เมื่อคุณได้ AI Agent ที่ดีแล้ว คุณสามารถสร้าง AI Agent อีกหลายตัวที่มีลักษณะเหมือนกันเพื่อขยายการให้บริการ เช่น เพิ่มจำนวน AI Agent เพื่อรองรับงานลูกค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มแรงงานคน

    ตัวอย่างการใช้งานจริง: AI Agent ตอบอีเมลลูกค้าอัตโนมัติ

    สมมติว่าคุณทำงานในฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายรักษาความปลอดภัย และต้องตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวัน การทำงานแบบเดิมอาจใช้เวลามากและน่าเบื่อ

    ในกรณีนี้ คุณสามารถตั้งค่า AI Agent ให้อ่านข้อความอีเมลที่เข้ามา ตรวจสอบข้อมูลในเอกสารที่เก็บไว้ใน Google Sheets หรือฐานข้อมูลอื่น ๆ แล้วตอบกลับอีเมลนั้นโดยอัตโนมัติ เหมือนมีผู้ช่วยที่ตอบกลับลูกค้าให้คุณทันที ไม่ต้องเสียเวลาตอบเอง

    นี่คือสิ่งที่ผมจะพาคุณไปทำตามกันทีละขั้นตอนในส่วนต่อไปครับ

    วิธีสร้าง AI Agent ด้วย n8n: สาธิตตั้งแต่ต้นจนจบ

    ผมจะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า n8n ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัตโนมัติที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ ได้มากมาย และที่สำคัญคือไม่ต้องเขียนโค้ด

    ถ้าคุณยังไม่มีบัญชี n8n ให้สมัครฟรีได้เลย มีระยะเวลาทดลองใช้งาน 2 สัปดาห์

    ขั้นตอนที่ 1: สร้าง Workflow ใหม่

    เริ่มจากกดปุ่ม “Create” ที่มุมขวาบน เพื่อสร้าง workflow ใหม่ เป้าหมายของ workflow นี้คือ:

    • อ่านอีเมลที่เข้ามาจาก Gmail
    • ส่งข้อความอีเมลเข้า AI Agent เพื่อวิเคราะห์และตอบกลับ
    • ส่งคำตอบกลับไปยังอีเมลต้นทางในรูปแบบการตอบกลับภายใน thread เดิม

    ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Gmail Trigger

    เลือก Gmail เป็น trigger ของ workflow นี้ เพื่อให้ workflow ทำงานทุกครั้งที่มีอีเมลใหม่เข้ามา

    ถ้าเป็นครั้งแรกที่เชื่อมต่อ Gmail กับ n8n คุณจะต้องสร้าง credential โดยล็อกอินบัญชี Google ของคุณและอนุญาตการเข้าถึง

    ตั้งค่าให้ระบบตรวจสอบอีเมลทุก ๆ 1 นาที หรือปรับตามความต้องการ

    ขั้นตอนที่ 3: ทดสอบดึงอีเมลตัวอย่าง

    ส่งอีเมลจากบัญชีส่วนตัวของคุณไปยังบัญชี Gmail ที่เชื่อมต่อกับ n8n แล้วกด “Fetch Test Event” เพื่อดึงข้อมูลอีเมลล่าสุดเข้ามาใน workflow

    ระบบจะแสดงข้อมูลของอีเมลนั้น เช่น เนื้อหา ข้อความ และ thread ID ซึ่งเราจะใช้ thread ID นี้ในการตอบกลับอีเมล

    ขั้นตอนที่ 4: เพิ่ม Node AI Agent

    เพิ่ม node ที่จะเป็น AI Agent ของเรา โดยในตัวอย่างนี้จะไม่ใช้การ chat แบบ real-time แต่จะใช้ prompt แบบกำหนดเอง

    กำหนด prompt 2 ส่วน:

    1. User message – คือเนื้อหาของอีเมลที่ได้รับ
    2. System message – คือคำสั่งทั่วไปหรือบทบาทของ AI Agent เช่น “คุณเป็นผู้ช่วยลูกค้าที่เป็นมืออาชีพและสุภาพ” รวมถึงแนวทางการตอบ เช่น ต้องอ้างอิงข้อมูลจากฐานความรู้ใน Google Sheets และถ้าไม่รู้คำตอบ ต้องส่งเรื่องให้ผู้เชี่ยวชาญ

    ตัวอย่าง system message ที่ผมใช้:

    คุณเป็นผู้ช่วยลูกค้าที่เป็นมืออาชีพของบริษัท SaaS Company ตอบคำถามโดยอ้างอิงจากฐานข้อมูล FAQ ใน Google Sheets เท่านั้น ถ้าไม่ทราบคำตอบ อย่าคิดเอง ให้ส่งเรื่องต่อให้ผู้เชี่ยวชาญ คำตอบต้องชัดเจน สุภาพ และสั้นกระชับ พร้อมจัดรูปแบบเหมือนอีเมลจริง

    ขั้นตอนที่ 5: เชื่อมต่อข้อมูลจาก Gmail

    ใน user message ให้ลากและวางข้อมูลเนื้อหาของอีเมล (email body) จาก node Gmail ที่สร้างไว้ก่อนหน้า โดยตั้งค่าเป็น expression เพื่อให้ข้อมูลเปลี่ยนตามอีเมลใหม่ ๆ ที่เข้ามา

    ขั้นตอนที่ 6: เลือกโมเดล AI

    เลือกโมเดล AI เช่น OpenAI GPT-4o Mini ซึ่งมีเครดิตฟรีให้ทดลองใช้ในช่วงแรก

    โมเดลนี้อาจไม่ใช่รุ่นที่ทรงพลังที่สุด แต่เพียงพอสำหรับการทดสอบและใช้งานเบื้องต้น

    ขั้นตอนที่ 7: เชื่อมต่อฐานความรู้จาก Google Sheets

    เพิ่ม node เชื่อมต่อกับ Google Sheets ที่เก็บ FAQ หรือฐานข้อมูลคำถามและคำตอบที่ AI Agent จะใช้อ้างอิง

    ในตัวอย่างนี้ ผมใช้ข้อมูลจำลองที่สร้างขึ้นเองเพื่อให้เห็นภาพ แต่ในกรณีจริง คุณควรมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุมเพื่อให้ AI Agent ตอบคำถามได้แม่นยำ

    ขั้นตอนที่ 8: ทดสอบ AI Agent

    เมื่อเชื่อมต่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้ทดสอบ workflow โดยรันทีละขั้นตอน

    AI Agent จะอ่านอีเมล, ดึงข้อมูลจาก Google Sheets, สร้างคำตอบในรูปแบบอีเมลที่เหมาะสม และแสดงผลลัพธ์ออกมาให้ดู

    ขั้นตอนที่ 9: เพิ่มหน่วยความจำ (Memory) ให้ AI Agent

    AI Agent ที่เราสร้างยังไม่มีหน่วยความจำ ดังนั้นมันจะไม่จำบทสนทนาเก่าหรือประวัติการตอบกลับใน thread เดิม

    เพื่อให้ AI Agent จดจำและตอบกลับได้ต่อเนื่อง เราจะเพิ่มหน่วยความจำแบบง่าย ๆ โดยใช้ thread ID เป็นกุญแจในการเก็บข้อมูล

    วิธีนี้ช่วยให้ AI Agent สามารถจดจำคำถามและคำตอบใน thread เดียวกันได้โดยไม่สับสนกับ thread อื่น

    ขั้นตอนที่ 10: ตั้งค่าให้ AI Agent ตอบกลับอีเมล

    เพิ่ม node เพื่อส่งอีเมลตอบกลับใน thread เดิม โดยใช้ thread ID ที่ดึงมาจาก Gmail trigger

    กำหนดให้ส่งข้อความตอบกลับเป็นรูปแบบข้อความธรรมดา (plain text) โดยลาก output จาก AI Agent มาใส่ในข้อความ

    ทดสอบการส่งอีเมลตอบกลับ และตรวจสอบใน inbox ของคุณว่ามีการตอบกลับอัตโนมัติที่ถูกต้องหรือไม่

    ขั้นตอนที่ 11: ปรับแต่งการตอบกลับให้เหมาะสม

    ในตัวอย่างนี้ การตอบกลับจะใช้ชื่อผู้ส่งเป็นที่อยู่อีเมล ซึ่งอาจดูไม่เป็นมืออาชีพ

    คุณสามารถเพิ่มชื่อผู้ส่งที่เหมาะสม เช่น “Customer Service” หรือชื่อพนักงานจริง ๆ เพื่อให้ตอบกลับดูเป็นมิตรและมืออาชีพยิ่งขึ้น

    หลังจากปรับแต่งแล้ว ทดสอบส่งอีเมลอีกครั้งเพื่อดูผลลัพธ์

    เคล็ดลับสำคัญในการสร้าง AI Agent ที่มีประสิทธิภาพ

    AI Agent ไม่ใช่เวทมนตร์ที่ทำงานได้เองโดยอัตโนมัติทุกอย่าง ความสำเร็จของ AI Agent ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลและคำสั่งที่คุณป้อนเข้าไป

    คำพูดที่ว่าขยะเข้า ขยะออก (Garbage In, Garbage Out) ยังใช้ได้ดีในโลก AI ถ้าคุณใช้ข้อมูลเก่าหรือไม่ครบถ้วน AI Agent ก็จะให้คำตอบที่ไม่ดีตามไปด้วย

    ดังนั้น ควรจัดเตรียมข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และอัปเดตเสมอ รวมถึงตั้ง prompt ที่ชัดเจนและเหมาะสม เพื่อให้ AI Agent ทำงานได้อย่างราบรื่นและตอบสนองความต้องการได้เต็มที่

    นอกจากนี้ AI Agent ก็เหมือนเครื่องคิดเลขที่ทรงพลัง แต่คุณต้องรู้ว่าคุณต้องการแก้ปัญหาอะไร และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้ได้คำตอบที่แม่นยำ

    สรุป

    AI Agent เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา โดยช่วยให้เราประหยัดเวลาและโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่าได้

    การสร้าง AI Agent ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือใช้เวลานาน คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมืออย่าง n8n และฐานข้อมูล Google Sheets ที่มีอยู่แล้ว

    ในบทความนี้ ผมได้สอนวิธีสร้าง AI Agent ตัวแรกของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมเคล็ดลับในการตั้งค่าและปรับปรุง AI Agent ให้ทำงานได้ดี

    ถ้าคุณอยากเริ่มต้นใช้ AI Agent ในงานของคุณ ผมแนะนำให้ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ แล้วคุณจะเห็นประโยชน์อย่างชัดเจน

    อย่าลืมว่า AI Agent ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นผู้ช่วยที่ช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้เรามีเวลาทำสิ่งที่สร้างสรรค์และมีคุณค่ามากกว่า

    คำแนะนำเพิ่มเติมและแหล่งเรียนรู้

    • ถ้าคุณต้องการ AI Agent ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การจัดการข้อมูลจำนวนมาก หรือการวิเคราะห์ข้อมูลแบบลึก ๆ คุณอาจต้องใช้เทคนิคอย่าง Retrieval-Augmented Generation (RAG) และฐานข้อมูลเวกเตอร์ (Vector Database) ที่ผมจะทำบทความและวิดีโอสอนในอนาคต
    • สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสมัครใช้งาน n8n ฟรี และทดลองสร้าง workflow ของตัวเองได้ทันที
    • ติดตามผมบน YouTube และ LinkedIn เพื่อรับเนื้อหาเกี่ยวกับ AI Agent, การทำ Automation และกลยุทธ์การใช้ AI ในธุรกิจ
    • ถ้าคุณมีงานที่ต้องการให้ AI Agent ช่วยอัตโนมัติ ลองแสดงความคิดเห็นใต้บทความนี้ ผมยินดีให้คำแนะนำและไอเดีย

    ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ และขอให้คุณสนุกกับการสร้าง AI Agent ที่ช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณง่ายขึ้น!

  • Read More